Topic
การบูรณาการการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ร่วมกับประเด็นสำคัญอื่นด้านความยั่งยืน
การบูรณาการการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ร่วมกับประเด็นสำคัญอื่นด้านความยั่งยืน
โดย
บุษยดา ยังเฟื่องมนต์
ที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนองค์กร
และสมาชิก SET ESG Experts Pool *
*บทความนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง SET ESG Experts Pool และ SET ESG Academy
ในการนำเสนอประเด็น ESG ที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจและการลงทุนของไทย
ความจำเป็นของการบูรณาการ ESG ในห่วงโซ่อุปทาน
ปัจจุบัน องค์กรต่างมุ่งผสานการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เข้ากับการดำเนินงานทางเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนและลดผลกระทบเชิงลบ แนวทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่จับตามองของนักลงทุนที่ใช้ข้อมูลด้านความยั่งยืนเป็นเกณฑ์สำคัญในการตัดสินใจ แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับกำแพงทางการค้าที่เกิดจากกฎหมายและกฎระเบียบของโลกที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หลายองค์กรยังคงดำเนินการด้าน ESG ในลักษณะที่แต่ละฝ่ายทำงานเป็นเอกเทศต่อกัน (Silo) ซึ่งอาจทำให้ลืมไปว่าเป้าหมายสูงสุดที่ทุกฝ่ายกำลังทำอยู่นั้น ก็เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนขององค์กรโดยรวม
การทลายกำแพงระหว่างฝ่ายต่างๆ และบูรณาการประเด็นสำคัญเข้าด้วยกันจึงเป็นแนวทางที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่จะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายหลักและเป้าหมายย่อยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยประหยัดทรัพยากรที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน กำลังคน และเวลาได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน (Sustainable Supply Chain Management) ซึ่งนอกเหนือจากการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การหาแหล่งวัตถุดิบ การผลิต ไปจนถึงการส่งมอบสินค้าและบริการไปยังลูกค้าแล้ว ยังสามารถจัดการควบคู่ไปกับโครงการด้านความยั่งยืนอื่นๆ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ขยายวงกว้างขึ้นได้
บทความนี้จะนำเสนอตัวอย่างการบูรณาการขององค์กรระดับโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งสรุปเป็นกรอบการทำงาน 3 ขั้นตอน เพื่อให้องค์กรสามารถนำไปปรับใช้ได้
![]() โคคา-โคลา: การบูรณาการเพื่อความมั่นคงด้านน้ำและการเกษตร โคคา-โคลาได้แสดงให้เห็นถึงการบูรณาการการจัดการห่วงโซ่อุปทาน เข้ากับประเด็นสำคัญด้านการเป็นผู้นำด้านทรัพยากรน้ำ (Water Leadership) เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน (Sustainable Agriculture) และการพัฒนาประชากรและชุมชน (People and Communities) ● เหตุผลและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์: การปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3 ของบริษัทคิดเป็นประมาณ 90% ของการปล่อยทั้งหมด โดยมีวัตถุดิบเป็นแหล่งปล่อยก๊าซอันดับสอง (28%) รองจากบรรจุภัณฑ์ ดังนั้น การจัดการที่ต้นน้ำของห่วงโซ่อุปทานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง บริษัทจึงตั้งเป้าหมายที่เชื่อมโยงกัน ได้แก่ การคืนน้ำ (Replenish) 100% ของปริมาณน้ำที่ใช้ในผลิตภัณฑ์กลับสู่ชุมชนและธรรมชาติ และการจัดหา 100% ของวัตถุดิบทางการเกษตรที่สำคัญให้สอดคล้องกับหลักเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ● แนวทางการดำเนินการ: ตัวอย่างที่ชัดเจนคือโครงการในเมืองบูร์ซา ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเครียดน้ำสูง (Highly Water-stressed Area) เป็นแหล่งน้ำสำคัญของทั้งโรงงานและชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกแอปเปิลและพีชที่มีการปนเปื้อนสูง ไม่สามารถใช้อุปโภค-บริโภคได้ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของโคคา-โคลา บริษัทได้ดำเนินงานใน 3 ระดับ 1. ภายในโรงงาน: ทำงานร่วมกับที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำในกระบวนการผลิต 2. บริเวณลุ่มน้ำ: จัดทำแผนจัดการน้ำเพื่อสนับสนุนเกษตรกรในการปรับปรุงระบบชลประทาน ลดการปนเปื้อน รวมถึงการปลูกป่าเพื่อช่วยกรองมลพิษและรักษาสมดุลของระบบนิเวศ 3. ชุมชน: พัฒนาที่ดิน 500 เอเคอร์เพื่อทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน โดยติดตั้งเซนเซอร์และระบบชลประทานแบบหยดสำหรับแอปเปิล พีช และมะเขือเทศ ● ผลการดำเนินงานและความท้าทาย: โครงการนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในการเกษตรได้ถึง 20-50% , ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร , และคืนน้ำสู่ธรรมชาติได้กว่า 500 ล้านลิตรต่อปี อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเผชิญกับความท้าทายในการปรับปรุงการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) , การติดตามการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก , และการสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิต ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยทรัพยากรและการมีส่วนร่วมจากคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง |
![]() เนสท์เล่: การบูรณาการเพื่อจัดการสภาพภูมิอากาศตลอดห่วงโซ่อุปทานนม เนสท์เล่ได้บูรณาการการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน เข้ากับประเด็นด้านการจัดการภูมิอากาศ (Climate Action) และการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Sourcing) ● เหตุผลและเป้าหมายกลยุทธ์: การปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3 ของเนสท์เล่ คิดเป็นร้อยละ 5 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด โดยมีวัตถุดิบประเภทนมและปศุสัตว์ (Dairy and Livestock) เป็นแหล่งกำเนิดที่ใหญ่ที่สุด (ร้อยละ 31) บริษัทจึงตั้งเป้าหมายหลักในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2593 และจัดหาวัตถุดิบร้อยละ 50 ของวัตถุดิบหลักจากเกษตรกรที่ใช้เกษตรเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ภายในปี 2573
● แนวทางการดำเนินการ: บริษัทได้จัดทำ แผนการจัดการห่วงโซ่อุปทานนมและสภาพภูมิอากาศ (Climate Dairy Plan) โดยทำงานร่วมกับคู่ค้ากว่า 200 รายใน 27 ประเทศ ผ่านกลยุทธ์ 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1. การมีส่วนร่วมของเกษตรกร (Farmer Engagement): สร้างแรงจูงใจและให้รางวัลแก่เกษตรกรที่นำแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้ 2. การเร่งรัดการใช้อาหารสัตว์คาร์บอนต่ำ (Low-carbon Feed Acceleration): ร่วมมือกับผู้ผลิตอาหารสัตว์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากต้นทาง 3. การจัดการมูลสัตว์ (Manure Management): สนับสนุนต้นแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy Model) เพื่อเปลี่ยนของเสียให้เป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ 4. การเข้าถึงข้อมูลดิจิทัล (Digital Services Marketplace): จัดหาข้อมูลและการสนับสนุนทางเทคนิคให้แก่เกษตรกร 5. กลไกการเข้าถึงแหล่งทุน (Collaborative Financing Engine): ริเริ่มการจัดหาเงินทุนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ ● ผลการดำเนินงานและความท้าทาย: ในปี 2567 บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 20.38% เมื่อเทียบกับปี 2561 และจัดหาวัตถุดิบหลัก 21.3% จากเกษตรกรที่ใช้เกษตรเชิงฟื้นฟูได้สำเร็จ ความท้าทายหลักยังคงเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนสู่เกษตรเชิงฟื้นฟู, การลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง, และการทำงานเชิงนโยบายเพื่อสร้างระบบรองรับผลผลิตอย่างยั่งยืน |
กรอบการดำเนินงาน 3I เพื่อการบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน
จากกรณีศึกษาข้างต้น สามารถสรุปแนวทางการบูรณาการห่วงโซ่อุปทานร่วมกับประเด็นสำคัญอื่นด้านความยั่งยืนได้เป็น 3 ขั้นตอนหลัก หรือ“3I”
- INVESTIGATE – การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูล:
ขั้นตอนนี้คือการรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุมตามขอบเขตที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน การประเมินความเสี่ยงด้านน้ำในพื้นที่ของซัพพลายเออร์ หรือข้อมูลด้านสิทธิมนุษยชนในการจ้างงานของคู่ค้า จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อระบุจุดสำคัญ (Hotspots) ที่มีผลกระทบสูงสุดและเป็นโอกาสในการปรับปรุงได้อย่างมีนัยสำคัญ การมีข้อมูลที่แม่นยำเป็นรากฐานสำคัญของการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ - INNOVATE – การสร้างสรรค์และออกแบบโครงการ:
เมื่อระบุจุดสำคัญได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการระดมสมองเพื่อสร้างสรรค์โครงการใหม่ๆ สิ่งสำคัญคือการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับบริหารและระดับปฏิบัติการ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการที่ออกแบบนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายหลักขององค์กรและเป้าหมายย่อยของแต่ละหน่วยงาน การสร้างนวัตกรรมในขั้นตอนนี้อาจหมายถึงการพัฒนากระบวนการใหม่ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ หรือการสร้างความร่วมมือในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน - INCORPORATE – การนำไปปฏิบัติและร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย:
ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำโครงการที่ออกแบบไว้ไปปฏิบัติจริง โดยต้องอาศัยการดำเนินงานตามข้อตกลงร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งภายใน (เช่น ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายผลิต เป็นต้น) และภายนอกองค์กร (เช่น ซัพพลายเออร์ ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น) การสื่อสารที่โปร่งใสและการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การดำเนินงานร่วมกันบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้
บทสรุป
ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมือง การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนมีความจำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง การริเริ่มในจุดที่สำคัญโดยใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ (Investigate) ควบคู่ไปกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อบูรณาการร่วมกับประเด็นสำคัญอื่นๆ (Innovate) และการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน (Incorporate) จะช่วยให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายที่หลากหลายได้ในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และท้ายที่สุด สิ่งนี้คือการสร้างความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาวอย่างแท้จริง
ข้อมูลอ้างอิง (References)
- Coca-Cola Business & Sustainability Report Highlights 2022
URL: https://www.coca-colacompany.com/content/dam/company/us/en/reports/2022-business-report/coca-cola-business-and-sustainability-report-2022-highlights.pdf - Coca-Cola Environmental Update 2023
URL: https://www.coca-colacompany.com/content/dam/company/us/en/reports/2023-environmental-update/2023-environmental-update.pdf - Coca-Cola Sustainability Group Data 2024
URL: https://www.cocacolaep.com/assets/Download-centre/2024-CCEP-Sustainability-Group-data.pdf - Nestlé Road to Net Zero
URL: https://www.nestle.com/sustainability/climate-change/zero-environmental-impact - Creating Shared Value at Nestlé 2024
URL: https://www.nestle.com/sites/default/files/2025-02/creating-shared-value-nestle-2024.pdf - Nestlé Non-financial Statement 2024
URL: https://www.nestle.com/sites/default/files/2025-02/non-financial-statement-2024.pdf - Accelerate, Transform, Regenerate: Nestlé Net Zero Roadmap, March 2023
URL: https://www.nestle.com/sites/default/files/2023-12/nestle-net-zero-roadmap-en.pdf - Nestlé Regenerative Agriculture
URL: https://www.nestle.com/sustainability/nature-environment/regenerative-agriculture