Topic

CG Today : การทุจริตและตกแต่งบัญชี ภัยเงียบที่ทำลายความยั่งยืนองค์กร

 

“เงินกำไรหลายพันล้านอาจหายไปในชั่วข้ามคืน หากองค์กรขาดความโปร่งใส” ประโยคนี้สะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นกับหลายบริษัทชั้นนำของโลก ในยุคที่นักลงทุนไม่ได้มองแค่ตัวเลขกำไรขาดทุน แต่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและธรรมาภิบาลมากขึ้น การทุจริตและตกแต่งบัญชีจึงเป็นความเสี่ยงร้ายแรงที่สามารถทำลายความเชื่อมั่นและมูลค่าขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว เฉกเช่นบ้านที่สวยงามแต่รากฐานผุกร่อน ย่อมพังทลายเมื่อเจอพายุลูกใหญ่

การทุจริตและการตกแต่งบัญชีสร้างผลกระทบในวงกว้างต่อความยั่งยืนขององค์กร โดยไม่จำกัดเพียงมิติทางการเงินเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความยั่งยืนในหลายด้าน ทั้งความน่าเชื่อถือในตลาดทุนที่ลดลงซึ่งกระทบต่อต้นทุนและความสามารถในการระดมทุน ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มตั้งแต่พนักงานไปจนถึงคู่ค้าและลูกค้า รวมถึงการบั่นทอนวัฒนธรรมองค์กรและระบบการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลให้องค์กรสูญเสียความสามารถในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ ตลอดจนต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นในการสร้างความเชื่อมั่นและการกำกับดูแลกิจการให้กลับคืนมา

 


 

 

แรงจูงใจและการป้องกัน: มุมมองเพื่อความยั่งยืน

การทำความเข้าใจแรงจูงใจที่นำไปสู่การทุจริตเป็นก้าวสำคัญในการป้องกันและสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร แรงจูงใจหลักมักเกิดจากความกดดันด้านผลประกอบการระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายทางการเงินที่สูงเกินไป การวัดผลงานจากตัวเลขระยะสั้น หรือระบบผลตอบแทนที่เน้นผลงานรายไตรมาส ซึ่งอาจผลักดันให้ผู้บริหารมองข้ามผลกระทบระยะยาวต่อองค์กร องค์กรสามารถลดแรงจูงใจเหล่านี้ได้ด้วยการปรับเปลี่ยนมุมมองและแนวทางการดำเนินงาน โดยกำหนดเป้าหมายที่สมดุลระหว่างผลประกอบการทางการเงินและตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน พัฒนาระบบผลตอบแทนที่สะท้อนผลงานระยะยาว เช่น การถือครองหุ้นระยะยาวหรือการวัดผลงานจากค่าเฉลี่ยหลายปี รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความโปร่งใสและความรับผิดชอบผ่านการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้นำ

 


 

 

แนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อความยั่งยืน

  1. การพัฒนาระบบและกระบวนการ ระบบที่แข็งแกร่งช่วยป้องกันและตรวจจับการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

      สร้างระบบการควบคุมภายในที่แข็งแกร่ง กำหนดขั้นตอนการอนุมัติที่รัดกุม แบ่งแยกหน้าที่อย่างชัดเจน มีระบบตรวจสอบและถ่วงดุล
      พัฒนากระบวนการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูล จัดให้มีการสอบทานโดยหน่วยงานอิสระ
      กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติที่ชัดเจน จัดทำคู่มือการปฏิบัติงาน กำหนดอำนาจอนุมัติ และแนวทางการรายงานความผิดปกติ

  2. การพัฒนาบุคลากร บุคลากรที่มีความรู้และจริยธรรมคือด่านแรกของการป้องกันการทุจริต

      เสริมสร้างความรู้และความเข้าใจ จัดอบรมเกี่ยวกับจรรยาบรรณธุรกิจ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และกรณีศึกษาการทุจริต
      พัฒนาทักษะการตรวจจับ ฝึกอบรมการสังเกตสัญญาณเตือนภัย การวิเคราะห์ความเสี่ยง และการรายงานเหตุการณ์ผิดปกติ
      ส่งเสริมวัฒนธรรมการแจ้งเบาะแส สร้างช่องทางการแจ้งเบาะแสที่ปลอดภัย มีมาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส

 


 

การสร้างภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืน บทเรียนจาก Microsoft

Microsoft ภายใต้การนำของ Satya Nadella ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเทคโนโลยี ด้วยการปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ในปี 2014 จากบริษัทที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม สู่การเป็นผู้นำด้านธรรมาภิบาลและความยั่งยืน

บริษัทได้ปรับระบบการประเมินผลครั้งใหญ่ โดยนำแนวคิด Growth Mindset มาใช้ แทนที่จะวัดผลงานจากตัวเลขระยะสั้น ผู้บริหารถูกประเมินจากผลงานระยะยาวและผลกระทบต่อสังคม ระบบผลตอบแทนถูกออกแบบให้สอดคล้องกับการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยกำหนดให้ผู้บริหารระดับสูงต้องถือครองหุ้นระยะยาว และโบนัสประจำปีขึ้นอยู่กับตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน

ด้านการป้องกันการทุจริต Microsoft ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ในระบบรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบ รวมถึงการพัฒนา AI Ethics Framework ที่ช่วยตรวจจับความผิดปกติในการทำธุรกรรม พร้อมสร้างระบบแจ้งเบาะแสที่ได้มาตรฐานระดับโลก ที่สำคัญ คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใส Nadella เน้นย้ำว่า “ความซื่อสัตย์และจริยธรรมต้องมาก่อนผลกำไรเสมอ” บริษัทยังจัดตั้งกองทุน Climate Innovation Fund มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นชัดเจน คือ Microsoft ได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลดีที่สุดจาก Forbes ในปี 2023 มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 600% ตั้งแต่ปี 2014 และได้รับความไว้วางใจจากพนักงาน ลูกค้า และนักลงทุนทั่วโลก

 


 

การป้องกันการทุจริตและการตกแต่งบัญชีไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน องค์กรที่ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและธรรมาภิบาลไม่เพียงจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย การตระหนักถึงผลกระทบของการทุจริตต่อความยั่งยืนขององค์กร และการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการป้องกันและตรวจจับการทุจริต จะนำไปสู่การพัฒนาตลาดทุนไทยที่เข้มแข็งและยั่งยืนในระยะยาว

 

 


 



ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย