Topic
ส่อง TOP 5 ความเสี่ยง ESG ของตัวอย่างบริษัทจดทะเบียน
- ESG Risk หรือประเด็นความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน ชื่อเสียง และความอยู่รอดของธุรกิจ ธุรกิจจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงด้าน ESG อย่างเร่งด่วนและจริงจัง
- ความเสี่ยงด้าน ESG 5 อันดับแรกที่บริษัทจดทะเบียนไทยให้ความสำคัญสูงสุด ได้แก่ ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี สิทธิมนุษยชน อาชีวอนามัยและความปลอดภัย และการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ
ESG Risk คืออะไร ทำไมธุรกิจไม่ควรมองข้าม
ในโลกธุรกิจและการลงทุน “ความเสี่ยง” ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนมักให้ความสนใจ ประเด็นความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) หรือ “ESG Risk” นับวันจะยิ่งมีบทบาทต่อการตัดสินใจทางธุรกิจและการลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหากขาด ESG ไป ความเชื่อมั่นหรือการยอมรับนับถือของผู้คนในสังคมย่อมกระเทือน อย่างที่เราเห็นกันในเหตุการณ์ช่วงที่ผ่านมากับกรณีการทำธุรกิจโดยขาดจริยธรรมหรือความโปร่งใสในการบริหารงาน ซึ่งท้ายที่สุดย่อมส่งผลต่อราคาหุ้นและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวงกว้าง จนสร้างผลกระทบในวงกว้างและความสูญเสียมหาศาล คงเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์เตือนใจให้ได้ฉุกคิดกันว่า ESG เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ หากไม่อยากพบเจอวิกฤตศรัทธา และการตั้งคำถามจากสาธารณชน จนชื่อเสียงและภาพลักษณ์เสียหาย
ส่อง TOP 5 ความเสี่ยงสำคัญด้าน ESG ในมุมมองบริษัทจดทะเบียน
ข้อมูลจาก Showcases: ESG Practices of Thai Listed Companies ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดทำขึ้นร่วมกับบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการประเมินเป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ “AAA” ประจำปี 2567 พบว่า 5 อันดับความเสี่ยงสำคัญสูงสุดที่บริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญมีดังต่อไปนี้
- ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
- ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
- ความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับ
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับรายงาน Global Risk Report 2025 โดย World Economic Forum ที่ระบุว่า ความเสี่ยงทั้งในระยะสั้น (กรอบระยะเวลา 2 ปี) และความเสี่ยงในระยะยาว (กรอบระยะเวลา 10 ปี) ล้วนเป็นความเสี่ยงด้าน ESG ด้วยกันทั้งสิ้น
ตัวอย่างธุรกิจไทยกับวิธีรับมือความเสี่ยงด้าน ESG ในลักษณะหรือรูปแบบต่าง ๆ
- ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (STGT) ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนจากการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล 100% ในการผลิตพลังงานความร้อนของหม้อไอน้ำ และลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลโดยปรับเปลี่ยนมาใช้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 330 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี เท่ากับการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำมันดีเซล 3,604,297 บาทต่อปี และติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 4,104 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี คิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,959 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และลดค่าไฟฟ้าได้ 17,010,259 บาทต่อปี
-
ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (DITTO) ผู้จำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสาร เช่น ให้เช่า จำหน่าย และให้บริการเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ และสินค้าเทคโนโลยีอื่น ๆ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสาร ซึ่งปัจจุบันลูกค้าต้องการลดการใช้กระดาษและหันมาใช้การเอกสารในรูปแบบดิจิทัลกันมากขึ้น บริษัทจึงปรับแผนธุรกิจโดยจะมุ่งเน้นขยายธุรกิจการให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสาร การสแกนเอกสาร และการจัดเก็บเอกสารในรูปแบบดิจิทัลอย่างครบวงจร พร้อมกับศึกษาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
- ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเอกชนชั้นนำ วางแนวทางการบริหารจัดการประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนให้ครอบคลุมกิจกรรมของกลุ่มบริษัทและผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่า สอดคล้องกับหลักการชี้แนะว่าด้วยการดำเนินธุรกิจและสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ รวมถึงตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence: HRDD) โดยประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนในทุก 3 ปี และจัดอบรมพื้นฐานเรื่องกระบวนการติดตามตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านให้กับพนักงานตั้งแต่ระดับผู้จัดการทุกหน่วยงานขึ้นไป เพื่อส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียมในการทำงาน
- ความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (SCGP) ผู้ให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร ส่งเสริมให้พนักงานรายงานความปลอดภัยผ่าน SAFESave แพลตฟอร์มดิจิทัลที่สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างสะดวกและรวดเร็ว ช่วยลดความซับซ้อนและความผิดพลาด รวมถึงช่วยชี้เป้าในการสอดส่องพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ การดำเนินการทั้งหมดนี้ส่งผลให้ในปี 2566 อัตราการเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน (LTIFR) ของคู่ค้าลดลงจาก 0.59 เหลือ 0.45 รายต่อ 1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน
- ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับ
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) ปฏิบัติตามมาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทย และเตรียมนำ Thailand Taxonomyมาปรับใช้ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Green Loan และ Sustainability-linked Loan ซึ่งมีต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำกว่าสินเชื่อทั่วไป เพื่อสนับสนุนลูกค้าให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่สังคมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy)
จะเห็นว่าความเสี่ยงด้าน ESG กำลังมีบทบาทและส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องเร่งปรับตัว ในมุมของผู้ลงทุนเอง ก็ควรศึกษาแนวทางการบริหารความเสี่ยงเหล่านี้ของธุรกิจที่อยู่ในพอร์ตการลงทุน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: SETInvestnow
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้เขียนบทความ
ฝ่ายพัฒนาการลงทุนอย่างยั่งยืน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย