Topic

CG Today: CEO “กรรมการ” บริษัทหลักทรัพย์ใช้ Inside Information ซื้อหุ้นตัดหน้าบริษัทผ่าน Nominee

Inside Information “ข้อมูลภายใน” ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นับได้ว่าเป็น “ทรัพย์สินในทางเศรษฐกิจ” (Economic Asset) ที่มีมูลค่าผันแปรไปตาม “เวลา” ของการเปิดเผยข้อมูลนั้น ให้แก่ “ผู้ลงทุน” สาระสำคัญของ “ข้อมูลภายใน” มีส่วนสำคัญให้ “ผู้ลงทุน” ตัดสินใจ “ลงทุน” หรือ “ไม่ลงทุน” ในหลักทรัพย์ของบริษัทนั้น ด้วยเหตุนี้ การใช้ “ข้อมูลภายใน” เพื่อเอาเปรียบ “ผู้ลงทุน” (Insider Trading) จึงกลายเป็นความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย และกลายเป็น “การกระทำที่ทำร้ายตลาดทุน” (Market Misconduct) ที่กรรมการและผู้บริหารควรระมัดระวัง (Duty of Care) ไม่ให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องนี้

หาก CEO ที่เป็นกรรมการบริษัทหลักทรัพย์เกี่ยวข้องโดยตรงกับ “ข้อมูลภายใน” ของบริษัทหลักทรัพย์ที่มีแผนการลงทุนในหุ้น “บริษัทจดทะเบียน” ในตลาดหลักทรัพย์ และ CEO “ถือโอกาส” ในตำแหน่งหน้าที่ “รู้ข้อมูลภายใน” เข้าซื้อหุ้นบริษัทนั้นก่อนเพื่อ “ตัดหน้าในราคาถูก” ต่อมาภายหลัง​ ​CEO ได้ “ขายหุ้นเมื่อราคาแพง” ณ เวลาที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ตนเองเป็น “ผู้บริหาร” เข้าลงทุนหุ้นบริษัทนั้น เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ “ผู้ถือหุ้น” และ “คณะกรรมการบริษัท”​ ยอมรับได้หรือไม่?


กรณีนี้ CEO ไม่ได้ซื้อหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ที่ตนเองเป็นผู้บริหาร แต่ซื้อหุ้น “บริษัทอื่นที่เป็นหุ้นเป้าหมายในการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์” โดยอาศัย “ข้อมูลภายใน” ของบริษัทหลักทรัพย์ที่จะลงทุนในหุ้นบริษัทอื่น เป็นการเอาเปรียบบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็น “นายจ้าง” ของ CEO และยังเป็น “นิติบุคคล” ที่ CEO เป็น “กรรมการบริษัท” อยู่ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น CEO รายนี้ได้ “ซื้อหุ้นบริษัทอื่น” ผ่าน Nominee ที่เป็น HR Director ของบริษัทหลักทรัพย์ตาม “หลักฐาน” เส้นทางการเงินระหว่าง CEO และ HR Director หากการลงทุนของ CEO ใน “บริษัทอื่น” เป็นไปด้วย “ความสุจริต” เหตุใดต้อง “ปิดบังอำพราง” ซื้อหุ้นผ่าน Nominee ทำไม? ไม่ซื้อหุ้นในนามตนเอง

กรณีศึกษารายนี้ แม้จะไม่ใช่ Insider Trading ที่ “เอาเปรียบผู้ลงทุน” รายอื่นที่ไม่มีโอกาสล่วงรู้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจลงทุน แต่ก็นับได้ว่าเป็นการ “เอาเปรียบบริษัทนายจ้าง” ที่ CEO เป็น “ผู้บริหาร” และเป็น “ผู้แทนนิติบุคคล” ไม่ควรจะได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่นี้(Fiduciary Duty) อีกต่อไป

เบื้องหลังของ Market Misconduct นี้ คือ “CEO บริษัทหลักทรัพย์” แอบซื้อ “หุ้นเป้าหมาย” คือ “บริษัทอสังหาริมทรัพย์” ในตลาดหลักทรัพย์ก่อนบริษัทหลักทรัพย์เข้าลงทุนจำนวนหลายล้านหุ้น โดยใช้เงินลงทุนหลายล้านบาท “โอนเงินค่าซื้อหุ้น” ผ่านบัญชีธนาคารส่วนตัวของ HR Director หลายครั้งต่อเนื่องกัน และใช้ “บัญชีหลักทรัพย์” ของ Nominee เพื่อ “ปิดบังอำพราง” ไม่ให้ผู้อื่นทราบ


พยานหลักฐานรวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ได้ว่า CEO ได้ซื้อ “หุ้นเป้าหมายล่วงหน้าราคาถูก” รวมถึง 9 ครั้งหลายราคาทั้งการซื้อหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ และการซื้อหุ้นนอกตลาด และ “ขายราคาแพง” เมื่อบริษัทหลักทรัพย์เข้าลงทุนในหุ้นเป้าหมายนั้น ส่งผลให้ CEO ได้กำไร 3.5 ล้านบาทระหว่างปลายปี 2541 ถึงต้นปี 2542 แม้จำนวนเงินกำไรที่CEO ได้ไปจากการกระทำนี้จะไม่สูงมากแต่ความผิดนี้ได้กระทำลงไปแล้ว “ถือว่า” ความผิดสำเร็จใน “คดีอาญา”

กฎหมายบริษัทมหาชนและกฎหมายหลักทรัพย์ รวมถึงกฎหมายอาญาไม่ได้คำนึงถึง “ขนาดรายการ” และ “จำนวนเงินผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิด” ต่างจากช่วงเวลาหลังจากนั้นในช่วงปี 2559-2560 “กฎหมายหลักทรัพย์” นำหลักการ Claw Back เรียกคืน “ผลประโยชน์ที่ได้จากกระทำผิด” ส่งคืนให้แก่รัฐอันเป็นการ “ตัดเสบียง” คนทำผิด (Financial Sanction) ไม่ให้นำผลประโยชน์เหล่านั้นมาเป็น “ฐานเงิน” เพื่อต่อสู้ทางกฎหมายกับรัฐ

ระหว่างกระบวนการของศาลใน “คดีอาญา” CEO ตายก่อนที่ศาลจะพิพากษาจึงถือว่า “คดีอาญาระงับ” เฉพาะ CEO ที่ตายไป แต่ HR Director ที่เป็น “ผู้ร่วมกระทำผิดคดีอาญา” ทำให้ “บริษัทหลักทรัพย์” นายจ้างเสียหาย รวมถึงการ “แจ้งความเท็จ” และ “ใช้เอกสารเท็จ” หลายครั้งยังคงต้องรับผิดในคดีอาญาต่อไป ในที่สุด ศาลตัดสินให้ HR Director ต้องรับโทษจำคุก 5 ปี ตามกฎหมายบริษัทมหาชน และกฎหมายหลักทรัพย์

นอกจากนั้น ในมุมของ “การกำกับดูแลกิจการ” (Corporate Governance) การใช้ “ข้อมูลภายใน” กรณีนี้นับได้ว่าเป็นการเอาเปรียบ “ผู้ถือหุ้นรายย่อย” ที่ไม่มีโอกาสทราบ “ข้อมูลการลงทุนก่อนล่วงหน้า” ทั้งที่ CEO เป็น “กรรมการบริษัท” และ HR Director เป็น “ผู้บริหาร” ในกิจการหลักทรัพย์อันเป็นหนึ่งในเสาหลักของตลาดทุน “ถือได้ว่า” ไม่ได้ตั้งอยู่บน “หลักความซื่อสัตย์สุจริต” (Duty of Loyalty) อันเป็นพื้นฐานของ “หลักความไว้วางใจ” (Fiduciary Duty) ของกรรมการ/ผู้บริหาร

 


 

เขียนโดย
ชินภัทร วิสุทธิแพทย์

จัดทำโดย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย