Topic

วิตามินธุรกิจ ชุดบทเรียนธุรกิจฝ่าวิกฤต COVID-19 EP.5 : ธุรกิจอาหาร (บทความ)

บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตัวอย่างของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหอาหาร ที่ปรับตัวฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ COVID-19 นำพาร้านอาหารกว่า 266 สาขาทั่วประเทศ ให้ผ่านช่วงเวลาที่ศูนย์การค้าปิด ร้านอาหารเปิดขายไม่ได้ ด้วยกลยุทธ์ Street Fighter ในรูปแบบ Door to Door

วิตามินธุรกิจ “บทเรียนธุรกิจ ฝ่าวิกฤต COVID-19” กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร
บทสัมภาษณ์: คุณไพศาล อ่าวสถาพร
รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โอ อิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน): OISHI 

วิกฤตเศรษฐกิจจาก COVID-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารรุนแรง เมื่อเกิดการล็อคดาวน์เมือง ศูนย์การค้าปิดทำการ ร้านอาหารส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบทันที ยอดขายเป็นศูนย์ แต่ยังมีรายจ่ายและสินค้าคงค้าง ส่วนผู้ผลิตอาหารส่งออกก็ถูกชะลอการสั่งซื้อ การส่งออกมีปัญหาจากการปิดประเทศ บทพิสูจน์กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัทต้องบริหารจัดการอย่างไรจึงจะนำพาธุรกิจอาหารผ่านวิกฤตนี้ไปได้ บทสัมภาษณ์ คุณไพศาล อ่าวสถาพร  ผู้บริหารโอ อิชิ กรุ๊ป ธุรกิจร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่หลากหลาย ทั้งบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น ชาบู ยากินิกุ ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการแก่ผู้บริโภค 266 สาขา 

คุณไพศาลเล่าถึงวิกฤตครั้งนี้ว่า COVID-19 ส่งผลกระทบหนักมากเหมือนฟ้าผ่า จากประสบการณ์กว่า 20 ปีของโออิชิ บริษัทไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ร้านอาหารซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 ยังได้รับผลกระทบรุนแรงขนาดนี้ มากกว่าวิกฤตครั้งไหน เป็นเหมือนบททดสอบอย่างดีให้บริษัทถือเป็นยาแรงทดสอบว่าบริษัทจะสามารถปรับตัวและแข็งแรงขนาดไหน ย้อนไปตอนประกาศล็อคดาวน์ผลกระทบแรกคือค่าเช่าร้านอาหารที่ต้องแบกรับ ผลกระทบที่ 2 คือค่าแรงพนักงานกว่า 3,000 คน ผลกระทบที่ 3 คือการบริหารวัตถุดิบที่มีในร้านกว่า 2,000 ชนิด คู่ค้ากว่า 1,000 ราย ที่ได้รับผลกระทบ 

โอ อิชิ กรุ๊ป ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือ

บริษัทค่อนข้างโชคดีที่มีการวางแผนเรื่อง Sustainable Development ไว้ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมชุมชน และสิ่งแวดล้อม มานานก่อนเกิดวิฤตนี้และทำมาต่อเนื่อง ทำให้มีแผนรับมือและปรับตัว ไม่สำคัญว่าวิกฤติจะเกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง สำคัญที่จะรับมือมันอย่างไร บริษัทต้องเตรียมแผนเพื่อปรับตัวอย่างรวดเร็วในทุกมิติ

         มิติแรกการดูแลพนักงาน สิ่งแรกที่บริษัททำ คือไม่ลดเงินเดือนพนักงานเลย เพราะส่วนใหญ่ทำงานกับเรา มากกว่า 10 ปี ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างธุรกิจให้เติบโตมาถึงปัจจุบัน ทำอย่างไรให้พนักงานผ่านพ้นวิกฤตไปพร้อมกับบริษัท หลังประกาศล็อคดาวน์เราได้จัดตั้งศูนย์ COVID-19 เป็นแหล่งให้ความรู้พนักงานเกี่ยวกับการดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโรค พนักงานสามารถโทรศัพท์มาปรึกษาได้ตลอดเวลา ที่สำคัญบริษัทซื้อประกัน COVID-19 ให้พนักงานทุกคนเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ผลลัพธ์คือพนักงานทุกคนเห็นว่าบริษัทกำลังลำบาก จึงช่วยกันคิดนำสินค้าโอ อิชิ ไปขาย เราเรียกกลยุทธนี้ว่า Street fighter เป็นการขายแบบ Door to Door พนักงานช่วยนำเมนูไปให้ลูกค้าสั่งอาหารถึงบ้านและส่งต่อให้พนักงาน Delivery จัดส่ง สิ่งนี้พนักงานร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อบริษัทในภาวะที่ศูนย์การค้าปิดและร้านอาหาร เปิดไม่ได้

         มิติที่ 2 ด้านการดูแลลูกค้า หลังจากศูนย์การค้ากลับมาเปิด ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยของอาหาร และพนักงานที่มาให้บริการที่ร้าน บริษัทจึงพัฒนาแอ๊ปพลิเคชั่นให้พนักงานทุกคนลงทะเบียนวันละ 3 ช่วงเวลา ระบุสถานที่ที่ตนเองอยู่ เพื่อคัดกรองและตรวจสอบว่าพนักงานไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง และเมื่อร้านอาหารกลับมาเปิดบริการพนักงานทุกคนต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 และการแยกภาชนะบรรจุอาหารเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้าน อีกทั้งมีการประชาสัมพันธ์เรื่องสุขอนามัยและคัดกรองพนักงานผู้จัดส่งอาหาร สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่สั่งอาหารแบบดีลิเวอรี่

         มิติที่ 3 การดูแลคู่ค้า  บริษัทมีคู่ค้ารายใหญ่ช่วยบริหารสินค้าในสต๊อกไม่ให้อาหารในร้านโอ อิชิ มีค้างมากเกินไป สำหรับคู่ค้ารายย่อย บริษัทเข้าไปช่วยบริหารการผลิตสินค้าให้เหมาะกับสถานการณ์ ไม่ผลิตมากเกินไป และบริษัทยังช่วยเหลือสภาพคล่องทางการเงินโดยการลดเวลางวดจ่ายเงิน (Credit Term) ให้เร็วขึ้นทำให้คู่ค้ารายย่อยมีเงินไปหมุนทำธุรกิจ

         มิติที่ 4 พัฒนาสินค้าและบริการ วิกฤตครั้งนี้ทำให้บริษัทต้องปรับตัว เพิ่มสินค้าและให้ความสำคัญกับช่องทางจำหน่าย โดยมีการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าจากสถานการณ์ COVID-19 เช่น อาหารประเภทพร้อมรับประทานและมีเมนูใหม่ถึง 22 รายการ พัฒนาวิธีชำระเงินแบบดิจิทัลเพื่อลดการสัมผัสธนบัตรที่เสี่ยงการติดเชื้อโรค พัฒนาระบบจัดส่งอาหารแบบดีลิเวอรี่ พัฒนาระบบตรวจสอบวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารว่าสะอาดปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีกระบวนการผลิตที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสินค้าทุกชิ้นสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้

         มิติที่ 5 ปรับตัวรับเทคโนโลยี วิกฤต COVID-19 ทำให้บริษัทและพนักงานปรับตัวเรียนรู้นำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น เพื่อช่วยลดกระบวนการทำงานหลังบ้าน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ของธุรกิจอาหารในอนาคต

ไม่มีใครคาดการณ์มาก่อนว่าจะมีวิกฤตใหญ่ขนาดที่ทำให้ร้านอาหารในเครือโอ อิชิ กรุ๊ป กว่า 266 สาขาได้รับผลกระทบจนปิดทำการพร้อมๆ กันได้ ดังนั้นวิถีชีวิตใหม่ต่อจากนี้ ระบบจัดส่งอาหารถึงบ้านแบบดีลิเวอรี่ ของทุกร้านอาหารจะถูกพัฒนาและให้ความสำคัญเพราะเป็นช่องทางจำหน่ายเดียวในช่วงวิกฤต และต้องความตระหนักถึงสุขอนามัยของผู้บริโภคมากขึ้น ถ้าไม่มี COVID-19 ครั้งนี้ บริษัทก็ยังไม่มีระบบดีลิเวอรี่ สำหรับร้านชาบูชิ จากเดิมเคยคิดว่าประสบการณ์รับประทานชาบูต้องเกิดขึ้นที่ร้าน มาตอนนี้ความคิดเปลี่ยนไปเป็นว่าความสุขในการกินชาบูร่วมกันที่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้าน วิธีทำธุรกิจก็เปลี่ยนตามไปด้วย ทำให้เราคิดได้ว่า “แม้สายพานอาหารจะหยุด แต่เราไม่อยู่เสิร์ฟความสุข”

มุมมองการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนของ โอ อิชิ กรุ๊ป

วิกฤตครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์กลยุทธ์ด้านการพัฒนาความยั่งยืนและแผนการรับมือวิกฤตของโอ อิชิ กรุ๊ป ทำให้เราปรับตัวรับสถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆ ได้ทันท่วงที และสิ่งที่เรายึดมั่นทำมาตลอดในการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทำให้พนักงานและคู่ค้ากลับมาเป็นฮีโร่ที่ช่วยเราโดยไม่ได้ร้องขอ จากนี้ไปไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ต้องตระหนักและใส่ใจในเรื่องการพัฒนาความยั่งยืนของบริษัท และต้องพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมชุมชน และสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่สนใจแค่ตัวเลขยอดขายและรายได้เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องคำนึงถึงพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

สุดท้าย โอ อิชิ กรุ๊ป อยากเชิญชวนทุกบริษัทมาเริ่มลงมือทำทีละเล็กทีละน้อย อาจจะค่อยๆ เริ่มทำทีละอย่างก็ได้ ตั้งแต่ทำธุรกิจโดยคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการทำธุรกิจ ไม่เอาเปรียบผู้มีส่วนได้เสีย ธุรกิจนั้นจะมีผลประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืนแน่นอน

Click ดูวิดีโอคลิปเพิ่มเติม