Topic
SET Sustainability Forum 2/2025: Claims, Consequences, and Credibility: Capital Markets for Climate Action
SET Sustainability Forum 2/2025:
Claims, Consequences, and Credibility:
Capital Markets for Climate Action
พูดจริง ทำจริง วัดผลจริง...บททดสอบความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย (16 ก.ค. 68)
สรุปทุกประเด็นสำคัญจากเวทีสัมมนา...
เมื่อตลาดทุนไทยต้องเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
ภาคธุรกิจต้องปรับตัวอย่างไร ให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
...
แม้บริษัทส่วนใหญ่มีการตั้ง "เป้าหมายหรือคำมั่นสัญญา" (Claims) ด้านสภาพภูมิอากาศแล้ว
แต่จำเป็นต้องพิสูจน์ผ่านการดำเนินการจริงที่วัดผลได้ด้วย
เพื่อสร้าง "ความน่าเชื่อถือ" (Credibility) และความเชื่อมั่นในตัวธุรกิจ
ที่นำไปสู่ "ผลลัพธ์" (Consequences) ทางการเงินที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
...
ประเด็นสำคัญ 🖋
เส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero ขององค์กรคุณในวันนี้
เป็นไปได้จริงหรือไม่?
...และจะวัดผลอย่างไร?
ตลาดทุนทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณเตือนถึงภาระรับผิดชอบ (Accountability) ของภาคธุรกิจต่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ...
เป้าหมาย Net Zero ขององค์กรที่ไม่มีแผนการดำเนินการที่ชัดเจน
จะลดทอนความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือของธุรกิจ (Creditability) อย่างแน่นอน
ข้อมูลด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate-related Data)
& แผนการเปลี่ยนผ่าน (Transition Plan)
เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจในการลงทุน
และการจัดสรรเงินลงทุนของผู้ลงทุนสถาบัน รวมถึงธนาคารพาณิชย์
โดยมีการนำไปใช้ในการประเมินมูลค่า (Valuation Model) การจัดสรรเงินทุน (Capital Allocation) การพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน เป็นต้น
ภาคการคลัง-การเงิน-ประกันภัย-ตลาดทุน
พร้อมสนับสนุน
กลไล/เครื่องมือต่าง ๆ ของภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ
สามารถเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงรอบด้านในอนาคต
รับชมงานสัมมนาย้อนหลัง 🎥
วิดีโอการบรรยายและเสวนาในแต่ละช่วงของงาน...
SET's Roadmap ตลาดทุนที่น่าเชื่อถือ | ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร | SET Sustainability Forum 2/2025 รับฟังวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ 3 ปีของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการสร้างระบบนิเวศตลาดทุนที่น่าเชื่อถือ เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero ตามเป้าหมายประเทศ เพิ่มความน่าสนใจให้กับบริษัทจดทะเบียนไทยในเวทีโลก และสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบนิเวศตลาดทุนไทยโดยรวม
Net Zero ได้ต้องมี CG ที่เข้มแข็ง | ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร | SET Sustainability Forum 2/2025 เจาะลึกหลักการและความสำคัญของ "Grounded Governance" หรือธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการเปลี่ยนเป้าหมายหรือคำมั่นสัญญาด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Pledges) ให้กลายเป็นการดำเนินการรับมอและเปลี่ยนผ่านที่วัดผลได้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
|
Multi-Regulatory Approach แนวทางสนับสนุนธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero | SET Sustainability Forum 2/2025 การรวมตัวครั้งสำคัญของ 5 หน่วยงานสำคัญ ได้แก่ ภาคการคลัง-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ภาคการเงิน-ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกันภัยและตลาดทุน (ก.ล.ต., ธปท., คปภ., สศค., และ ตลท.) เพื่อชี้ถึงกรอบการทำงาน แนวทางดำเนินการ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ของแต่ละหน่วยงาน เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
The Science of Climate Credibility | Jack Simmons, LSEG | SET Sustainability Forum 2/2025 เจาะลึกมุมมองระดับโลกในการติดตามและประเมินความน่าเชื่อถือของการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ
|
ผลลัพธ์ทางการเงินขึ้นอยู่กับ Credible Transition Plan | SET Sustainability Forum 2/2025 เจาะลึกมุมมองของผู้จัดสรรเงินทุน กับคำถามที่ว่า "ความน่าเชื่อถือ" ของธุรกิจวัดอย่างไร ถูกนำมาใช้ประเมินและตัดสินใจลงทุนจริงหรือไม่อย่างไร ตั้งแต่การประเมินมูลค่าธุรกิจ การกำหนดต้นทุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน การออกกองทุนด้านความยั่งยืน ไปจนถึงการประเมินความเสี่ยงเชิงระบบ
|
รวมภาพบรรยากาศภายในงานฯ 📸
สรุปประเด็นจากงาน 🔍
SET Sustainability Forum 2/2025
“Claims, Consequences, and Credibility: Capital Market for Climate Action”
16 กรกฎาคม 2568
เรียบเรียงโดย
ทยุต สิริวรการวณิชย์ ฝ่ายพัฒนาความรู้ด้านความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
I. บทนำ: จุดเปลี่ยนตลาดทุนไทย จาก “เป้าหมาย/คำมั่นสัญญา” สู่ “บทพิสูจน์ความน่าเชื่อถือ”
ท่ามกลางความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรง ตลาดทุนทั่วโลกและประเทศไทยกำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่ซึ่งการประกาศ "เป้าหมาย/คำมั่นสัญญา" (Claims) ด้านสภาพภูมิอากาศ ไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ "ความน่าเชื่อถือ" (Credibility) ที่ต้องพิสูจน์ได้ด้วยข้อมูลและการดำเนินการที่วัดผลได้ จะเป็นตัวกำหนด "ผลลัพธ์" (Consequences) ทางการเงิน และความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจโดยตรง
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จัดงานสัมมนา SET Sustainability Forum 2/2025 ในหัวข้อ “Claims, Consequences, and Credibility: Capital Market for Climate Action” ขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นเวทีเจาะลึกถึงแนวทางการสร้างความน่าเชื่อถือที่จับต้องได้ และทำความเข้าใจถึงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมซึ่งเกิดขึ้นแล้วในตลาดทุนปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมให้ทุกภาคส่วนสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
Net Zero จะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง (Grounded Governance)
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ได้เปิดประเด็นสำคัญในปาฐกถาพิเศษ โดยตอกย้ำด้วยข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ว่าภาวะโลกร้อนคือความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และภาคธุรกิจไม่สามารถใช้ความซับซ้อนทางการเมืองระหว่างประเทศเป็นข้ออ้างในการนิ่งเฉยได้อีกต่อไป สาระสำคัญคือ การบรรลุเป้าหมาย Net Zero ไม่ใช่แค่เรื่องทางเทคนิค แต่เป็นบทพิสูจน์ ‘ธรรมาภิบาล (Corporate Governance)’ อย่างแท้จริง คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงต้องยึดมั่นในคำมั่นสัญญา กำกับดูแล และผลักดันวาระนี้ให้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลักขององค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าเป้าหมายที่ประกาศไว้จะถูกนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
เป้าหมายของตลาดหลักทรัพย์ฯ: การสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลความยั่งยืน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทย
ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เล่าถึงเป้าหมายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนการขับเคลื่อนตลาดทุน เพื่อตอบรับกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศและวิกฤตความน่าเชื่อถือ โดยมุ่งเน้นผ่าน 3 แผนงานหลัก :
- แผนงานที่ 1: การวางรากฐานข้อมูลให้มีความถูกต้องและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
- ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลความยั่งยืนของประเทศ ผ่าน ESG Data Platform ซึ่งมีกระบวนการตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลให้เป็นมาตรฐาน (Data Cleansing and Standardization) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งบริษัทจดทะเบียน ผู้ลงทุน รวมถึงผู้ใช้ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ผู้กำกับนโยบายสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และเปรียบเทียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการลดความเสี่ยงจาก Greenwashing
- ส่งเสริมให้เกิดการทวนสอบและรับรองข้อมูล (Data Verification) ผ่านความร่วมมือกับผู้ตรวจสอบ ทั้งข้อมูลการเงินและข้อมูลความยั่งยืน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยนั้นมีคุณภาพเพียงพอสำหรับการใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน (Investment-Grade)
- แผนงานที่ 2: พัฒนากลไกที่เปลี่ยนข้อมูลคุณภาพให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ
- ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ในการให้ลูกค้าของธนาคารใช้ระบบ SET Carbon สำหรับคำนวณและทวนสอบข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อใช้ข้อมูลในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อพิเศษ เป็นการเพิ่มโอกาสให้บริษัทสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า
- กลไกดังกล่าวพิสูจน์ถึงผลตอบแทนทางการเงินของแผนการเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจนจากข้อมูลที่มีคุณภาพ
- ร่วมมือกับผู้ประเมินระดับโลกอย่าง FTSE Russell เพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และดึงดูดเงินลงทุนจากผู้ลงทุนทั่วโลก
- ทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Sustainability-Linked Bonds, Sustainable-Linked Loans ที่ผูกต้นทุนทางการเงินเข้ากับเป้าหมายด้านความยั่งยืนโดยตรง
- สนับสนุนการจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) เพื่อเป็นช่องทางในการระดมทุนไปยังบริษัทที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน
- แผนงานที่ 3: การผนึกกำลังสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการแข่งขัน
- ร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กฎเกณฑ์ มาตรการ และกลไกสนับสนุนทั้งหมดส่งเสริมและสอดประสานกัน ไม่สร้างภาระซ้ำซ้อนให้ภาคธุรกิจ
- ยกระดับ SET ESG Academy ให้เป็นศูนย์กลางความรู้ พัฒนาศักยภาพของบุคลากรทั้งในตลาดทุน ตั้งแต่ระดับกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน เนื่องด้วยทุกคนคือกำลังสำคัญที่จะร่วมขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืนได้
- ร่วมกับอีกหลายหน่วยงานทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการศึกษาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับตลาดคาร์บอนของประเทศ เพื่อสนับสนุนให้ภาคธุรกิจและประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
II. แนวทางสนับสนุนภาคธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ จากหน่วยงานภาคการคลัง-การเงิน-ประกันภัย-ตลาดทุน (Multi-Regulatory Approach)
เวทีเสวนาแรกได้นำเสนอภาพการดำเนินการของหน่วยงานภาคการเงิน การคลัง ประกันภัย และตลาดทุน ในการสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของภาคธุรกิจ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศในระยะยาว
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.):
ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านกลไกการเงิน Financing the Transition และเป็นระบบตามเกณฑ์ Thailand Taxonomyซึ่งเป็นมาตรฐานกลางที่ครอบคลุม 95% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันและเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงแหล่งทุนสีเขียว - สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.):
มุ่งยกระดับ การเปิดเผยข้อมูล ของบริษัทจดทะเบียนสู่มาตรฐานสากล ISSB S1 และ S2อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของข้อมูลในสายตาผู้ลงทุนทั่วโลก - สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.):
เสริมสร้างความแข็งแกร่งของภาคประกันภัยผ่าน Climate Stress Test และส่งเสริม นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ประกันภัย ใหม่ๆ เช่น ประกันภัยรถยนต์ EV เป็นต้น เพื่อเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางกายภาพให้แก่ภาคธุรกิจ - ความท้าทายร่วมกัน: ทุกหน่วยงานยอมรับว่าความท้าทายหลักคือ การขาดแคลนข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และ การสร้างขีดความสามารถ (Capacity Building)โดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไข
III. มุมมองระดับโลก: การวัดความน่าเชื่อถือจากการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ (The Science of Climate Credibility)
John Simmons ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลสภาพภูมิอากาศจาก London Stock Exchange Group (LSEG) ได้นำเสนอมุมมองของผู้ลงทุนในระดับโลกว่า พวกเขาแยกแยะระหว่างข้อมูลในอดีต (Backward-looking) ที่ตรวจสอบง่าย กับข้อมูลคาดการณ์ในอนาคต (Forward-looking) ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนได้อย่างไร
- หัวใจคือความน่าเชื่อถือ: LSEG ได้ร่วมมือกับ Transition Pathway Initiative (TPI) พัฒนากรอบการประเมิน Management Quality Score (MQ) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่โปร่งใสในการวัดคุณภาพการบริหารจัดการด้านสภาพภูมิอากาศของบริษัท โดยพบความสัมพันธ์ที่ชัดเจนว่า บริษัทที่ได้คะแนน MQ สูง จะมีอัตราการลดการปล่อยคาร์บอนที่สูงขึ้นจริง
- CAPEX คือข้อมูลสำคัญ: การจะได้รับการยอมรับในระดับสูงสุด (MQ ระดับ 4-5) บริษัทต้องสามารถแสดงให้เห็นถึง การจัดสรรเงินลงทุน (CAPEX) ที่สอดคล้องกับแผนการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม ถึงจะพิสูจน์ว่าบริษัท "เอาจริง" ไม่ใช่แค่ "พูดจริง"
- สัญญาณเตือนถึงบริษัทไทย: แม้ผลงานของบริษัทไทยจะโดดเด่นเมื่อเทียบในภูมิภาค แต่มาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลกำลังถูกยกระดับความเข้มงวดขึ้นอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนผ่านหรือปรับตัวทางธุรกิจที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ คือการเปิดเผยข้อมูล Scope 3 และการทวนสอบข้อมูล
IV. ผลลัพธ์ทางการเงินที่เป็นรูปธรรม: แผนการเปลี่ยนผ่านฯ ที่น่าเชื่อถือ (Credible Transition Plan) จะกำหนดอนาคตทางการเงิน
เวทีเสวนาสุดท้ายได้เชื่อมโยงทุกประเด็นเข้าด้วยกัน และแสดงให้เห็นว่า "ความน่าเชื่อถือ" ถูกนำมาใช้ตัดสินใจทางการเงินจริงในปัจจุบันอย่างไร
- มุมมองเชิงนโยบาย (สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์): งานวิจัยชี้ชัดว่า "ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่าน" (Transition Risk) จากการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจสีน้ำตาล และ "ความเสี่ยงทางกายภาพ" (Physical Risk) จากภัยธรรมชาติ ล้วนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินไทยอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถวัดผลได้แล้วในแบบจำลองความเสี่ยง
- มุมมองผู้ลงทุน (บลจ.กสิกรไทย): ผู้ลงทุนสถาบันได้พัฒนา Checklist ที่เข้มข้น ในการประเมินแผนการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การกำกับดูแลโดยคณะกรรมการ KPI ผู้บริหาร การมีเป้าหมายที่ผ่านการรับรองจากมาตรฐานสากล (SBTi) ไปจนถึงการมีแผนการลงทุน (CapEx/OpEx) ที่ชัดเจนและตรวจสอบย้อนกลับได้
- มุมมองผู้ให้สินเชื่อ (SCBX): การขับเคลื่อนความยั่งยืนต้องทำอย่างจริงจัง (Sustainability in Substance) โดยมีคณะกรรมการเข้ามากำกับและผลักดันให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินงานหลักและกระบวนการบริหารความเสี่ยง แม้จะมีความท้าทายในการกำหนด Baseline โดยเฉพาะ Scope 3 แต่การลงมือทำอย่างจริงจังจะสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และความไว้วางใจในระยะยาว
V. บทสรุปและแนวทางปฏิบัติสำหรับภาคธุรกิจ
สาระสำคัญจากเวที SET Sustainability Forum 2/2025 ชี้ชัดเจนว่า ตลาดทุนกำลังมองหา "หลักฐานที่วัดผลได้" มากกว่า "เป้าหมายในรายงานความยั่งยืน" ภาคธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวและรักษาความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก จำเป็นต้อง:
- กำหนดให้วาระด้านสภาพภูมิอากาศเป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทโดยตรง: ไม่ใช่แค่กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมหรือสังคม แต่เป็นกลยุทธ์หลักขององค์กร โดยเป็นส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลกิจการและการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี
- สร้างแผนการเปลี่ยนผ่านที่น่าเชื่อถือและวัดผลได้: พัฒนาแผนการเปลี่ยนผ่าน (Transition Plan) ที่มีเป้าหมายชัดเจนทั้งระยะสั้นและยาว มีแนวทางการดำเนินการชัดเจน มีแผนการลงทุน (CAPEX) รองรับ และมีข้อมูลที่โปร่งใส ทวนสอบแล้ว และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
- ใช้ประโยชน์จากแนวทาง/เครื่องมือ สนับสนุน: ศึกษาและทำความเข้าใจแนวทาง/เครื่องมือต่าง ๆ ที่หน่วยงานการคลัง-การเงิน-ประกันภัย-ตลาดทุน พัฒนาขึ้น และเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ ๆ
- ลงทุนในข้อมูลและพัฒนาบุคลากร ด้านความยั่งยืน: สร้างระบบการจัดเก็บข้อมูลวามยั่งยืนที่มีคุณภาพ และพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจในประเด็นด้านความยั่งยืน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความน่าสนใจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 📝
📍ทุกเส้นทางมุ่งหน้าสู่ Net Zero: ธุรกิจไทยจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร? 📍AI ช่วยยกระดับการจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน: เตรียมความพร้อมองค์กรสู่ Net Zero ด้วย ESG Management Platform 📍คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO): จุดเริ่มต้นธุรกิจไทย เตรียมรับมือ EU CBAM และ CSRD |
Stay Connected
ติดตามข่าวสารและกิจกรรมด้านความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ที่:
- 🌐 SET Sustainability | SET ESG Academy
- 📱 LINE Official: @SETsustainability
- 📧 Email: SETsustainability@set.or.th
"SET…Make it ‘Work’ for Every Future"
#SETSustainability #CorporateGovernance #InternalAudit #ESG #ThaiCapitalMarket