Topic
คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO): จุดเริ่มต้นธุรกิจไทย เตรียมรับมือ EU CBAM และ CSRD
คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO): จุดเริ่มต้นธุรกิจไทย เตรียมรับมือ EU CBAM และ CSRD
โดย ฝ่ายพัฒนาความรู้ด้านความยั่งยืน SET ESG Academy (2025-06-11 16:01:13)
คุณจะได้อะไรจากบทความนี้ (Executive Summary/Highlights)
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กฎระเบียบจากต่างประเทศ หรือความคาดหวังที่สูงขึ้นจากผู้ลงทุน/สังคม สร้างแรงกดดันให้ธุรกิจจนเกิดการตั้งคำถาม ถึงความสามารถในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization)
- CFO เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero องค์กรที่ดำเนินการวัดและรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างแม่นยำ มีการบริหารจัดการข้อมูล เปิดเผยและรายงานข้อมูล GHG ตามมาตรฐานสากล จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและยกระดับความน่าเชื่อถือขององค์กร
- สำหรับธุรกิจไทย การจัดทำ CFO ตามมาตรฐานสากล (เช่น GHG Protocol, ISO-14064 เป็นต้น) และแนวทางของ อบก. ที่ได้รับการปรับให้เหมาะกับบริบทไทย จะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับกฎระเบียบที่เข้มงวดทั้งในระดับโลก (เช่น EU CBAM, CSRD เป็นต้น) และระดับในประเทศ
- การประยุกต์ใช้เครื่องมือดิจิทัล (เช่น GHG Calculator, Acamp, SET Carbon เป็นต้น) มีส่วนช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพการดำเนินการขององค์กร เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ
- องค์กรที่ประสบความสำเร็จในการจัดทำ CFO มักมีปัจจัยร่วมสำคัญคือ มีการบริหารจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืนอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้นำให้ความสำคัญจริยธรรมและการดำเนินการด้านความยั่งยืน ส่งเสริมนวัตกรรมและลงทุนในเทคโนโลยี และสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างจริงใจสม่ำเสมอ
กรอบมาตรฐานและเครื่องมือการจัดการ CFO
2.1 กรอบมาตรฐานสากลหรือเทียบเท่า
การจัดทำ CFO ที่มีประสิทธิภาพควรดำเนินการตามแนวทางและมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและประเทศไทย ได้แก่
- GHG Protocol: กรอบมาตรฐานสากลที่ใช้ในการวัดและรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แบ่งการปล่อยออกเป็น 3 ขอบเขต (Scope)
- ISO 14064: มาตรฐานสำหรับการวัดและรายงานการปล่อยก๊าซมี 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การวัดและรายงานขององค์กร (ISO 14064-1) การวัดและรายงานของโครงการฯ (ISO 14064-2) และการให้ความเชื่อมั่นในรายงาน/ข้อมูล GHGs ที่เปิดเผย (ISO 14064-3)
- แนวปฏิบัติของ TGO (องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ อบก.): แนวทางและเครื่องมือสำหรับองค์กรไทยในการจัดทำ CFO ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อ้างอิงจากมาตรฐาน ISO 14064-1 (2561) GHG Protocol (2554, 2557) และตัวอย่างบางส่วนจาก ISO/TR 14069 (2566) โดยนำมาปรับปรุงให้เข้ากับบริบทของประเทศไทย
นอกจากนี้ ทาง อบก. ยังได้พัฒนาเครื่องมือสนับสนุนอื่น ๆ เช่น ฐานข้อมูลปัจจัยการปล่อยก๊าซ(Emission Factors) เป็นต้น เพื่อใช้คำนวณร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ ของแต่ละธุรกิจ เป็นต้น
2.2 เครื่องมือและฐานข้อมูลสำหรับ CFO
ปัจจุบันมีเครื่องมือ (Toolkit) ระบบ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ที่เปิดให้เข้าถึงและใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จึงช่วยให้การจัดทำ CFO เป็นไปอย่างสะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น
- GHG Calculator ของ TGO: เครื่องมือออนไลน์ที่คำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซตามมาตรฐานสากล
- Acamp (NSTDA): แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการจัดทำ CFO และรายงาน GHG แบบเรียลไทม์
- SET Carbon: แพลตฟอร์ม จัดการข้อมูลและคำนวณข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์อขององค์กรสำหรับบริษัทจดทะเบียนไทย
- ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจาก TGO: รายชื่อผู้ทวนสอบและที่ปรึกษาที่ได้รับการขึ้นทะเบียน (TGO Verifier List)
การใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยลดความซับซ้อนในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล อีกทั้งยังช่วยให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและโปร่งใส
ขั้นตอนการจัดทำ CFO อย่างเป็นระบบ
การเตรียมความพร้อมธุรกิจไทยสำหรับอนาคต
4.1 แรงกดดันและการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบระดับโลก
- CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ของสหภาพยุโรป: เริ่มบังคับใช้เต็มรูปแบบตั้งแต่
1 ม.ค. 2569 สินค้านำเข้าบางประเภทต้องรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ฝังมา (Embedded Emissions) โดยผู้ส่งออกไทยต้องลงทะเบียนกับ EU และจัดทำรายงาน Embedded Emissions เพื่อยื่นขอใบรับรอง CBAM หรือจ่ายค่าคาร์บอนตามเกณฑ์ของ EU ถึงสามารถนำสินค้า/บริการเข้าไปได้ - CSRD (Corporate Sustainability Reporting Directive): กำหนดให้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจในยุโรปต้องเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนอย่างละเอียด ซึ่งอาจส่งผลถึงบริษัทผู้ส่งออกของไทยที่ทำธุรกิจกับยุโรปโดยตรง หรือบริษัทที่อยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทในสหภาพยุโรป
4.2 ความต้องการของผู้ลงทุนสถาบันและตลาดทุน
ผู้ลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศให้ความสำคัญกับข้อมูล CFO ที่ได้มาตรฐานในระดับสากล และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability) เพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงขององค์กรและประกอบการตัดสินใจลงทุน บริษัทที่มีข้อมูล CFO ที่น่าเชื่อถือ/ได้รับการยอมรับในระดับสากล มักได้รับความสนใจจากกองทุนที่มีแนวทางลงทุนในสินทรัพย์ด้านความยั่งยืน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวได้ง่ายขึ้น ตลอดจนมีความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ
4.3 แนวทางการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง
- ใช้กรอบการเปิดเผยข้อมูลตามสากล: เช่น TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosures) และ IFRS S2 เป็นต้น เพื่อให้ข้อมูล CFO และการดำเนินการด้านความยั่งยืนอื่น ๆ สามารถเปรียบเทียบได้ในระดับสากล
- พัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูล และเทคโนโลยี: ลงทุนในระบบ MRV (Measurement, Reporting, and Verification) และเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มความแม่นยำและโปร่งใสของข้อมูล
- สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและความยั่งยืน: ส่งเสริมให้ทุกระดับในองค์กรตระหนักถึงความสำคัญของจริยธรรม บรรษัทภิบาลและการดำเนินการด้านความยั่งยืน
กรณีศึกษาความสำเร็จของบริษัทจดทะเบียนไทย
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT)
PTT เป็นตัวอย่างขององค์กรไทยที่ให้ความสำคัญกับการจัดทำ CFO อย่างเป็นระบบ โดยตั้งหน่วยงานเฉพาะทางเพื่อวัดผลและบริหารจัดการการปล่อย GHG ในทุกกิจกรรมขององค์กร PTTได้รับการจัดอันดับ SET ESG Ratings ระดับ AAA ปี 2567 และได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับสากล
บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS)
PPS บริษัทวิศวกรที่ปรึกษา ได้รับการจัดอันดับ SET ESG Ratings ระดับ AA ปี 2567 และได้รับการรับรอง CFO อย่างเป็นทางการในปี 2561 ในรายงานความยั่งยืนระบุว่าสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการทางธุรกิจลงได้ 4.2% ต่อปี (เทียบกับปี 2566) และประกาศเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2594
บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI)
FPI ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 1 และ 2 ลงได้ 31.14% ภายในปี 2565 (เทียบกับปี 2561) ได้รับการจัดอันดับ SET ESG Ratings ระดับ AA ปี 2567 และมีการประกาศเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2583 ตามแนวทาง SBTi
Key Success Factor
|
Tips: Next Step – การตั้งเป้าหมายบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Science-based Target Setting)
หลังจากที่องค์กรมีข้อมูล CFO ที่น่าเชื่อถือแล้ว
การตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (SBTi)
จะช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดกลยุทธ์และแผนปฏิบัติ
ที่สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ในระดับโลก
สรุป
การจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO) คือจุดเริ่มต้นสำคัญสำหรับทุกธุรกิจไทยในการมุ่งสู่ Net Zero และตอบโจทย์แนวโน้มกฎระเบียบสากล การใช้เครื่องมือและแนวทางมาตรฐานสากล รวมถึงเครื่องมือช่วยในการคำนวณและติดตามข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่าง ๆ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับข้อมูล พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจและการเข้าถึงแหล่งทุนสีเขียวในอนาคต
FAQ (สำหรับธุรกิจขนาดเล็กอย่าง SMEs) Q: SMEs ต้องทำการจัดทำ CFO หรือไม่? Q: ต้องใช้อุปกรณ์หรือระบบอะไรบ้าง? Q: การทวนสอบข้อมูลใช้เวลานานเท่าไหร่? |
Reference:
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. (2567). กฎหมายและกฎระเบียบด้านความยั่งยืนของสหภาพยุโรป: ตอนที่ 1/4 EU Green Deal ผลกระทบและโอกาสสำหรับธุรกิจไทย. Link
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย. (2566). การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO). Link
- FDI (Thailand). (2567). ISO 14064 มาตรฐานการวัดและรายงาน Link
- The Sustainability Cloud. (2567). Omnibus Package for CBAM Report Filing. Link
- IFRS Foundation. (2567). ISSB Publishes Exposure Draft of Targeted Amendments to S2. Link
- Harvard Law School. (2566). Mapping TCFD to the IFRS S2 on Climate Disclosure. Link
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน). (2567). การจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ. Link
📍ทุกเส้นทางมุ่งหน้าสู่ Net Zero: ธุรกิจไทยจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร? |
📍AI ช่วยยกระดับการจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน: เตรียมความพร้อมองค์กรสู่ Net Zero ด้วย ESG Management Platform 📍การเปิดเผยข้อมูลและการทำรายงานด้านความยั่งยืนที่ ‘น่าเชื่อถือ’ กับความเชื่อมั่นในภาคตลาดทุนไทย 📍คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO): จุดเริ่มต้นธุรกิจไทย เตรียมรับมือ EU CBAM และ CSRD |
📍Scope 3 Emissions คืออะไร? แนวทางจัดการสำหรับธุรกิจไทยเพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน ![]()
|