Topic

Super-aged Society ผลกระทบ โอกาส และแนวทางปรับตัวของธุรกิจไทย

 


โดย ฝ่ายพัฒนาความรู้ด้านความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

 


สิ่งที่คุณจะได้รับจากบทความนี้ (Highlights)  

  • ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ตลาดแรงงาน และทิศทางการลงทุนในระยะยาว
  • การประเมินผลกระทบผ่านกรอบ ESG ช่วยให้ธุรกิจรับมือได้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะด้านแรงงานที่ลดลง ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป และความเสี่ยงจากการขาดแผนระยะยาวด้านความยั่งยืน
  • ธุรกิจสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ ผ่านการบริหารจัดการพนักงานสูงวัย การลงทุนพัฒนาทักษะใหม่ และการสร้างระบบถ่ายทอดองค์ความรู้
  • เศรษฐกิจสูงวัยเปิดโอกาสใหม่ในการพัฒนานวัตกรรมและการลงทุนเฉพาะทาง เช่น สินค้าและบริการเพื่อผู้สูงวัย อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินสำหรับการวางแผนเกษียณ

 

สำหรับประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรสู่ สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ซึ่งคาดการณ์ว่าสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจะทะลุ 20% ภายในปี พ.ศ. 2571 นั้น ถือเป็นความจริงที่กำลังเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจไปอย่างช้า ๆ ปรากฏการณ์นี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ความยั่งยืนของตลาดแรงงาน และทิศทางการลงทุนในระยะยาว ในมุมมองทางธุรกิจ การทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างลึกซึ้ง จะเป็นแนวทางสำคัญในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง และการแสวงหาโอกาสที่ซ่อนอยู่ เพื่อสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง    

 

 

 การประเมินผลกระทบจากสังคมสูงวัยผ่านเลนส์ ESG 

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ การนำกรอบการวิเคราะห์ ESG มาปรับใช้ จะช่วยให้องค์กรและผู้ลงทุนสามารถมองเห็นและเตรียมรับมือกับความท้าทายได้อย่างเป็นระบบ 

  • มิติการกำกับดูแล (G): ความเสี่ยงจากการวางแผนขององค์กร
    ความเสี่ยงที่อันตรายที่สุดคือความเสี่ยงที่ผู้บริหารมองไม่เห็น การที่คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ ถือเป็นความบกพร่องในการกำกับดูแลกิจการที่ดี การไม่มีแผนงานระยะยาวเพื่อรับมือกับภาวะแรงงานหดตัวและตลาดผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป สะท้อนถึงการขาดความพร้อมสำหรับอนาคตในสายตาของผู้ลงทุนสถาบัน สิ่งนี้คือสัญญาณเตือนถึงความอ่อนแอในการวางแผนและอาจส่งผลต่อความสามารถในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
  • มิติสังคม (S): ผลกระทบต่อตลาดแรงงานและฐานลูกค้า
    การลดลงของประชากรในวัยทำงาน (Working-age Population) ถือเป็นความเสี่ยงที่จับต้องได้และส่งผล กระทบต่อธุรกิจในหลายด้าน เช่น 

    • ปัญหาขาดแคลนแรงงานและองค์ความรู้: การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยประสบการณ์ จะมีความรุนแรงขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อพนักงานอาวุโสทยอยเกษียณอายุ องค์กรจะเผชิญกับภาวะสมองไหลครั้งใหญ่หากไม่มีกระบวนการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ดีพอ
    • ต้นทุนแรงงานและประสิทธิภาพการทำงาน: การแข่งขันเพื่อดึงดูดแรงงานที่มีคุณภาพจะผลักดันให้ต้นทุนแรงงานสูงขึ้น องค์กรที่ไม่สามารถบริหารจัดการพนักงานสูงวัยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือไม่ลงทุนในการพัฒนาทักษะใหม่ (Reskilling) อาจต้องเผชิญกับประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมที่ลดลงและสูญเสียความสามารถในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อีกด้วย
    • ความต้องการของตลาดและลูกค้าที่เปลี่ยนไป: ความต้องการสินค้าและบริการรูปแบบเดิมจะเปลี่ยนไป เพราะหากตลาดของผู้สูงวัย หรือ "เศรษฐกิจสูงวัย" (Silver Economy) ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาทในปี 2572 กลายเป็นตลาดหลักที่มีกำลังซื้อมหาศาลและมีความต้องการที่ซับซ้อนแล้ว  ธุรกิจที่ไม่สามารถปรับตัวได้จะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไปอย่างรวดเร็ว 

 

 

 แนวทางปรับตัวของธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสจากการแข่งขัน  

บริษัทที่มองการณ์ไกลสามารถเปลี่ยนความเสี่ยงเหล่านี้ให้เป็นโอกาสในการสร้างความได้เปรียบที่ยั่งยืนได้ 

  1. การบริหารจัดการคนในองค์กรอย่างเข้าใจ
    องค์กรต้องเปลี่ยนมุมมองต่อพนักงานสูงวัยหรือใกล้เกษียณ ให้เป็นสินทรัพย์ (Asset) ที่มีค่าขององค์กร

    • ความยืดหยุ่นเรื่องการเกษียณอายุ: การขยายอายุเกษียณแบบสมัครใจ เพื่อรักษาบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญไว้กับองค์กร กรณีศึกษาของ บมจ. แสนสิริ (SIRI) ที่นำร่องนโยบายขยายอายุเกษียณเป็น 65 ปี คือตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม  
    • การลงทุนพัฒนาทักษะตลอดชีวิต: การลงทุนในโครงการพัฒนาทักษะใหม่ (Reskilling) และต่อยอดทักษะเดิม (Upskilling) โดยเฉพาะทักษะด้านดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการประยุกต์ใช้ AI เพื่อให้พนักงานสูงวัยสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
    • การสร้างระบบถ่ายทอดประสบการณ์: การจัดทำโครงการพี่เลี้ยง (Mentorship Program) เพื่อให้พนักงานอาวุโสถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาสู่พนักงานรุ่นใหม่ได้อย่างเป็นระบบ ป้องกันการสูญเสียความรู้ที่สำคัญขององค์กร 

  2. การพัฒนานวัตกรรมเพื่อตลาดเศรษฐกิจสูงวัย
    เศรษฐกิจสูงวัยคือตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง บริษัทที่ประสบความสำเร็จคือบริษัทที่เข้าใจความต้องการเฉพาะทาง (Pain Point) ของผู้สูงวัยและสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง เช่น 

    • สินค้าอุปโภคบริโภค: บริษัทที่วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของผู้สูงวัยจะสามารถสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างมหาศาล ตัวอย่างเช่น แบรนด์ "GoodAge" ของ บจก.ไลอ้อน (ประเทศไทย) ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเน้นแก้ปัญหาภาวะปากแห้งหรือสุขภาพผิวของผู้สูงวัย หรือ บมจ. นีโอ คอร์ปอเรท (NEO) ที่ต่อยอดแบรนด์ “BeNice” ไปสู่ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ  
    • บริการสุขภาพและสุขภาวะ: ตลาดนี้กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บมจ. บีดีเอ็มเอส (BDMS) กำลังสร้างระบบนิเวศสุขภาพ (Healthcare Ecosystem) ผ่านโครงการ BDMS Silver Wellness & Residence ที่ผสมผสานที่พักอาศัยเข้ากับศูนย์บริการดูแลสุขภาพครบวงจร ขณะที่ บมจ. เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA) ออกแบบยาและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เช่น ยาน้ำสำหรับผู้ที่กลืนยาได้ลำบาก 
    • อสังหาริมทรัพย์และบริการที่เกี่ยวข้อง: การผสมผสานระหว่างอุตสาหกรรมกำลังเกิดขึ้น โดยมีตัวอย่างคือ บมจ. พริ้นซิเพิ แคปิตอล (PRINC) ได้ขยายการลงทุนสู่ธุรกิจสถานดูแลผู้สูงอายุโดยตรง
    • บริการทางการเงิน: ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การวางแผนเกษียณและการบริหารความมั่งคั่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น ธนาคารทิสโก้ ภายใต้ บมจ. ทิสโก้ ไฟแนนเชียล กรุ้ป (TISCO) ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำในการออกแบบประกันสุขภาพระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุ

 

 

 การหาโอกาสในตลาด/การแข่งขันใหม่ 

การเปลี่ยนแปลงทางประชากรสร้างโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่มองการณ์ไกล 

  1. การลงทุนที่มุ่งเน้นเฉพาะทาง (Thematic Investing)
    เป็นการมุ่งเน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากแนวโน้มสังคมสูงวัย เช่น กลุ่มสุขภาพ อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ (Wellness Real Estate) สินค้าอุปโภคบริโภค และบริการทางการเงิน

  2. ESG Analysis แบบฉบับนักเคราะห์หลักทรัพย์
    การประเมิน ESG ที่มีประสิทธิภาพต้องมองลึกไปกว่าแค่ตัวเลขในรายงาน ผู้ลงทุนควรตั้งคำถามเชิงคุณภาพเพื่อประเมินความพร้อมของบริษัทในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง 

  • ด้านสังคม (S): บริษัทมีแผนรับมือการเกษียณอายุของพนักงานจำนวนมากหรือไม่? มีการลงทุนในการพัฒนาทักษะพนักงานอย่างต่อเนื่องหรือไม่? สัดส่วนรายได้จากตลาดผู้สูงวัยเป็นอย่างไร? 
  • ด้านการกำกับดูแล (G): คณะกรรมการบริษัทมีการหารือและกำหนดแผนงานเกี่ยวกับผลกระทบทางประชากรศาสตร์หรือไม่? มีการเปิดเผยข้อมูลการบริหารจัดการคนในรายงานประจำปี (แบบ 56-1 One Report) หรือไม่? 


บริษัทที่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนและมีแผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม คือบริษัทที่มีแนวโน้มจะสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสูงวัยจึงเป็นอีกบททดสอบสำคัญที่แยกบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ออกจากบริษัทที่รอวันเปลี่ยนแปลง 

 


References 

  • การเงินการธนาคาร (2023, November 6). Lion pushes Good Age brand to sell through hospitals and pharmacies, targeting the elderly in 66, targeting 30% growth. https://moneyandbanking.co.th/en/2023/71636/