Topic

ก้าวข้ามความท้าทายของ Thailand Taxonomy เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ความยั่งยืน

ทุกวันนี้ ปัญหาสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นที่หลายประเทศโฟกัสอย่างจริงจัง ประเทศไทยเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประกาศเป้า Net Zero เพื่อร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล โดย Thailand Taxonomy เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญเพื่อผลักดันประเทศไปสู่เป้าหมายดังกล่าว และความร่วมมือของภาคธุรกิจถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างเป็นรูปธรรม

จากบทความ “Thailand Taxonomy … กติกาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” และ “ปลดล็อกโอกาสใหม่: Thailand Taxonomy กับเงินทุนเพื่อธุรกิจสีเขียว” ทำให้เราเข้าใจแล้วว่า Thailand Taxonomy คืออะไร ประเมินอย่างไร และมีแนวทางการนำไปใช้อย่างไร ซึ่งการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจให้สอดคล้องตาม Thailand Taxonomy ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน อาทิ สินเชื่อสีเขียว (Green Loan) และตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) โดยกิจกรรมทางธุรกิจที่ได้รับสถานะ "สอดคล้องตาม Thailand Taxonomy" จะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (สีเขียว) หรือกิจกรรมที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่าน (สีเหลือง)

แม้ Thailand Taxonomy จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่ความยั่งยืน การนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดย่อมมีความท้าทาย บทความนี้จะวิเคราะห์ประเด็นท้าทายสำคัญที่ภาคธุรกิจควรเตรียมพร้อมรับมือ ทั้งการปรับตัวของผู้ประกอบการและการพัฒนากระบวนการประเมินของหน่วยงาน เพื่อให้การขับเคลื่อนมาตรฐานนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ



ความท้าทายหลักในการนำ Thailand Taxonomy ไปใช้ในองค์กร

การนำมาตรฐานหรือเครื่องมือใหม่มาใช้ในองค์กรย่อมต้องเผชิญความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะการปรับใช้ให้เข้ากับบริบทขององค์กรที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม หากองค์กรสามารถคาดการณ์และเตรียมแผนรับมือความท้าทายล่วงหน้า จะช่วยให้สามารถนำ Thailand Taxonomy ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยความท้าทายที่สำคัญมีดังนี้

  1. ความพร้อมในการจัดเก็บข้อมูล: องค์กรส่วนใหญ่ยังขาดความพร้อมด้านการจัดเก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคธุรกิจ ทั้งวิธีการจัดเก็บที่ถูกต้องตามมาตรฐานและขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะความเข้าใจเกณฑ์การคัดกรองทางเทคนิค (Technical Screening Criteria: TSC) ซึ่งมีข้อมูลเฉพาะทางและหลายองค์กรยังไม่ได้วางระบบจัดเก็บข้อมูลให้สอดคล้องกับข้อกำหนด

  2. การสื่อสารภายในองค์กร: ความเข้าใจที่ตรงกันเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย โดยหลายองค์กรอาจทำงานแบบขาดการบูรณาการข้อมูลร่วมกัน ทำให้ผู้บริหารและพนักงานไม่เห็นภาพร่วมกันถึงคุณค่าของการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่กิจกรรมสีเขียวที่ชัดเจน นอกจากนี้ การสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพยังก่อให้เกิดทัศนคติเชิงลบต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานที่คุ้นชินกับวิธีการทำงานแบบเดิมที่อาจมองว่าเป็นการเพิ่มภาระ ดังนั้น องค์กรจำเป็นต้องพัฒนาระบบการสื่อสารภายในให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

  3. ความซับซ้อนของการประเมิน: หลักการการไม่สร้างผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญ (Do No Significant Harm: DNSH) และการคํานึงถึงผลกระทบทางสังคม (Minimum Social Safeguards: MSS) เป็นองค์ประกอบสำคัญในการประเมินความสอดคล้องตาม Thailand Taxonomy ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อมและสังคม แต่การประเมินมีความซับซ้อนและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในระดับสูง องค์กรจึงจำเป็นต้องพิจารณาจัดจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน เพื่อให้การประเมินมีความถูกต้อง โปร่งใส และได้มาตรฐานตามหลักสากล

  4. การขาดแคลนผู้ประเมินภายนอก: ผู้ประเมินภายนอกที่ได้รับการรับรอง (Accredited Third-party Verifier) มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบและรับรองทั้งข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและความสอดคล้องตาม Thailand Taxonomy เพื่อให้เชื่อมั่นได้ว่าการดำเนินการขององค์กรเป็นไปตามมาตรฐานและเชื่อถือได้ ดังนั้น การมีจำนวนผู้ประเมินภายนอกที่เพียงพอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับใช้ Thailand Taxonomy ในประเทศไทย



แนวทางสำหรับภาคธุรกิจในการใช้งาน Thailand Taxonomy

การนำ Thailand Taxonomy ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ มีแนวทางเบื้องต้น ดังนี้

  • สร้างความเข้าใจร่วมกัน: ธุรกิจควรเริ่มจากการสร้างความเข้าใจในระดับผู้บริหารเกี่ยวกับองค์ประกอบหลักของ Thailand Taxonomy
    ซึ่งประกอบด้วยเกณฑ์ TSC หลักการ DNSH และ MSS รวมถึงประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับทั้งการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน

  • จัดโครงสร้างการจัดการ: เมื่อผู้บริหารเข้าใจชัดเจนแล้ว ขั้นต่อไปคือการจัดโครงสร้างการบริหารจัดการที่เหมาะสม โดยแต่งตั้งผู้รับผิดชอบหลักพร้อมกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน หรือจัดตั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานสำคัญในองค์กร เช่น ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายการเงิน ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น

  • กำหนดแผนงานและตัวชี้วัด: เมื่อมีคณะทำงานแล้ว ควรร่วมกันกำหนดแผนการดำเนินงานและมีตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) ขององค์กรที่ชัดเจนและวัดผลได้ เช่น การจัดสัดส่วนกิจกรรมการดำเนินการที่เป็นไปตาม Thailand Taxonomy และรายงานผลการดำเนินการเพื่อติดตามว่าดำเนินการสอดคล้องกับ KPIs ที่ได้ตั้งไว้หรือไม่ โดยสามารถศึกษาจากคู่มือการใช้มาตรฐาน Thailand Taxonomy ซึ่งมีรายละเอียดหลักการและวิธีการประเมินตามระบบสัญญาณไฟจราจร รวมถึงคู่มือเฉพาะแต่ละภาคธุรกิจ


สำหรับองค์กรที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนา SETCarbon Platform เป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บข้อมูลและคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการดำเนินงานต่างๆ ขององค์กร ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ SETCarbon (setcarbon.setgroup.or.th)

เมื่อองค์กรมีการจัดเก็บข้อมูลแล้ว การเปิดเผยข้อมูลที่ที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ จะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือให้องค์กรยิ่งขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาช่องทางการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนผ่าน SET ESG Data Platform ซึ่งเป็นศูนย์กลางจัดเก็บข้อมูล ESG ของบริษัทจดทะเบียนอย่างเป็นระบบ ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลภายในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ ผู้ลงทุนและนักวิเคราะห์สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจลงทุนที่รอบด้าน ท่านสามารถศึกษาการใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ SET

การทำความเข้าใจและปรับตัวตามมาตรฐาน Thailand Taxonomy เป็นก้าวสำคัญของภาคธุรกิจไทย นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยง Greenwashing เนื่องจากมีเกณฑ์การดำเนินงานที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ ที่สำคัญ การปรับตัวนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยก้าวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล

 

 

 


บทความเพิ่มเติม

📍ทุกเส้นทางมุ่งหน้าสู่ Net Zero: ธุรกิจไทยจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร?

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍ESG ซ่อนอยู่ตรงไหนในงบการเงิน

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍คัดหุ้นนอกยังไง เมื่อสถานการณ์โลกสุดปั่นป่วน

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍AI ช่วยยกระดับการจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน: เตรียมความพร้อมองค์กรสู่ Net Zero ด้วย ESG Management Platform

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍การเปิดเผยข้อมูลและการทำรายงานด้านความยั่งยืนที่ ‘น่าเชื่อถือ’ กับความเชื่อมั่นในภาคตลาดทุนไทย

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO): จุดเริ่มต้นธุรกิจไทย เตรียมรับมือ EU CBAM และ CSRD

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍Scope 3 Emissions คืออะไร? แนวทางจัดการสำหรับธุรกิจไทยเพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍การดูแลพนักงานไม่ใช่แค่ “ค่าใช้จ่าย” แต่คือการลงทุนใน “สินทรัพย์ที่มีคุณภาพ”

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍(ร่าง) พ.ร.บ. Climate Change, Carbon Tax และ TH-ETS กำลังจะมา: พลิกกฎเกมธุรกิจไทยสู่ความได้เปรียบในเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍Climate Risk และ Scenario Analysis: แนวทางบริหารความเสี่ยงธุรกิจไทย

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในยุค AI: ต้นทุนแฝงและผลกระทบที่องค์กรต้องรับมือ

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍พลิกเกมลงทุน ส่องโอกาสทำกำไรจาก 8 อุตสาหกรรมในเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍EUDR: ทางรอดเกษตรกรไทยและห่วงโซ่อุปทาน ยางพารา ปาล์ม กาแฟ

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍Super-aged Society ผลกระทบ โอกาส และแนวทางปรับตัวของธุรกิจไทย

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍ก้าวข้ามความท้าทายของ Thailand Taxonomy เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ความยั่งยืน

👉 Click เพื่ออ่านบทความ

📍พลิกความเสี่ยง คว้าโอกาสลงทุนด้วยเข็มทิศ ESG

👉 Click เพื่ออ่านบทความ